ป้ายกำกับ: ถนนอารบัท

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและสำคัญในกรุงมอสโคว

Posted By : Aeroglobal Co.,Ltd/ 5085 0

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและสำคัญในกรุงมอสโคว

 

คงไม่มีใครคาดคิดว่ารัสเซียประเทศที่เคยปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น จะมีด้านที่สวยงาม อย่างพระราชวัง โบสถ์วิหาร สภาพภูมิประเทศ และธรรมชาติป่าเขาที่มีความงามเหมือนในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ประเทศรัสเซียมีเมืองมอสโควเป็นเมืองหลวง ซึ่งมีอายุกว่า 870 ปีมาแล้ว การผ่านช่วงเวลามาเป็นเวลานานนี้ทำให้เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มากมายและมีกลิ่นอายศิลปะแบบดั้งเดิม

 

มอสโควมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง ดังนั้นทางเราจึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมอสโควที่เมื่อไปรัสเซียไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม นั่นก็คือ จัตุรัสแดง ซึ่งล้อมรอบไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างมหาวิหารเซนต์บาซิล สุสานเลนิน ห้างสรรพสินค้ากุม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และพระราชวังเครมลิน โดยภายในพระราชวังเครมลินก็ได้มีสถานที่ให้เลือกชม เช่น พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ วิหารอัสสัมชัญ ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ ระฆังของพระเจ้าซาร์และอื่นๆอีกมากมาย ถนนอารบัท มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์ และโรงละครบอลชอย

 

จัตุรัสแดง

 

ที่มา : http://www.prachatalk.com/webboard/สังคม-การเมือง/merry-christmas-พาไปเที่ยวชมกรุง-moscow-and-stpetersburg-russia

 

เริ่มกันด้วยสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย นั่นก็คือ จัตุรัสแดง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากแห่งหนึ่งเพราะเป็นแลนด์มาร์กของประเทศรัสเซีย จัตุรัสแดงตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโคว เมื่อมาถึง จะได้พบกับ มหาวิหารเซนต์บาซิล สุสานเลนิน ห้างสรรพสินค้ากุม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และพระราชวังเครมลินที่อยู่รายล้อมจัตุรัสแดง

 

จัตุรัสแดงสร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก สร้างในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 3 เมื่อประมาณ 600 ปีที่แล้ว อดีตเป็นลานกว้างใช้เป็นตลาด ชื่อว่า Torg ให้ผู้คนจับจ่ายซื้อของ ต่อมาในยุคสหภาพโซเวียตเป็นสถานที่สวนสนามของกองทัพเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร ส่วนปัจจุบันกลายเป็นสถานที่สำหรับเดินเล่น ถ่ายรูป พบปะสังสรรค์ และจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ เช่น งานเฉลิมฉลองทางศาสนา การสวนสนามเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย (9 พฤษภาคมของทุกปี)

 

ด้านหน้าทางเข้าจัตุรัสจะมีแผ่นป้ายวงกลมบนพื้นเป็นที่ตั้งระบุกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย ซึ่งเป็นจุดมาตรฐานสำหรับการวัดค่าระยะทางต่างๆ นักท่องเที่ยวมักจะเข้าไปยืนกลางวงกลม และโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลัง เพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโควอีกครั้ง

 

ที่มา : https://www.euronews.com/2018/05/09/russia-showcases-hypersonic-missile-and-robo-tank-during-victory-day-parade

 

มหาวิหารเซนต์บาซิล

 

ที่มา : https://www.rivercruising.co.uk/river-cruise-deals/riviera-travel-russian-odyssey.phtml

 

มหาวิหารเซนต์บาซิล ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง เป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัสเซีย สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555 ในสมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย เพื่อฉลองชัยชนะในการรบกับมองโกลที่เมืองคาซาน เมื่อปี ค.ศ. 1552 ชัยชนะครั้งนั้นทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติเป็นปึกแผ่นได้ในที่สุด และได้เริ่มสร้างวิหารแห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1555

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลออกแบบโดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ซึ่งพระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก และด้วยฉายาของพระเจ้าอีวานที่ 4 คือ อีวานมหาโหด ทำให้มีเรื่องเล่าว่า จากความงดงามของมหาวิหารเซนต์บาซิล พระเจ้าอีวานที่ 4 ได้มีคำสั่งให้ควักดวงตาทั้งสองของสถาปนิกเพื่อไม่ให้สามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก แต่อย่างไรเสียเรื่องเล่าก็เป็นเพียงเรื่องเล่า เพราะไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าภายหลังจากออกแบบวิหารแห่งนี้ สาเหตุใดเขาถึงตาบอด

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลเป็นโดมรูปหัวหอม มีความแตกต่างจากโบสถ์อื่น คือ เป็นโดม 8 โดมล้อมรอบโดมที่ 9 ที่อยู่ตรงกลาง ทำให้อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณ อันได้รับอิทธิพลมาจากไบแซนไทล์ที่เป็นโดมทรงหัวหอมกับสถาปัตยกรรมรัสเซียนกอธิก หอคอยสูงรูปกระโจมที่เป็นอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก ทำให้ออกมาเป็นหอคอยสูงรูปแท่งเทียนกำลังลุกไหม้บนปลายลำเทียน แสดงให้เห็นถึงการส่งความโชติช่วงชัชวาลย์เป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าบนสวรรค์

 

ที่มา : https://www.dookinternational.com/blog/saint-basils-cathedral-moscow/

 

อีกความแตกต่างจากวิหารอื่นของมหาวิหารเซนต์บาซิล คือ การตกแต่งภายในวิหารอื่นมักเต็มไปด้วยภาพวาดนักบุญ หรือเหตุการณ์สำคัญทางศาสนา แต่มหาวิหารเซนต์บาซิลมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สีสันสดใสเป็นส่วนใหญ่ มีเว้นไว้ตรงภาพประดับบนฉากศักดิ์สิทธิ์และเพดานยอดโดมที่เป็นรูปเคารพของพระเยซูและพระแม่มารี ทำให้มหาวิหารเซนต์บาซิลแตกต่างจากวิหารแห่งอื่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งภายใน

 

ด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ คอสมา มินิน และ เจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ (Kuzma Minin and Dmitry Pozharsky) หล่อด้วยทองสำริด ทั้ง 2 คนเป็นผู้นำกองกำลังอาสาสมัครต่อสู้ผู้รุกรานชาวโปล (Ploes) ออกจากเครมลินในปี ค.ศ. 1818 หลังจากได้รับชัยชนะจากสงครามนโปเลียน เดิมทีตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัสแดง ต่อมาในคุคสหภาพโซเวียตย้ายมาอยู่ด้านหน้ามหาวิหาร

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลถ้าเข้าไปชมข้างในต้องเสียค่าธรรมเนียม และเปิดทำการทุกวันเวลา 11:00 – 17:00 น. ปิดวันอังคาร

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum)

 

ที่มา : https://www.freepik.com/premium-photo/state-historical-museum-moscow-russia_4154008.htm

 

ตั้งอยู่บนจตุรัสแดง อาคารเป็นสีแดงเข้มรูปแบบสถาปัตยกรรมเเบบโกธิค เเละมีหอสูง 2 แห่งที่โดดเด่นงดงาม ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์วีรบุรุษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพล Georcy Zhukov สร้างในปี ค.ศ.1995 เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้มีขนาดใหญ่เก็บรวบรวมของสะสมล้ำค่าเก่าแก่ทางด้านโบราณคดีเอาไว้มากมาย ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการเเบ่งโซนการจัดเเสดงออกเป็นหลายโซน โดยแสดงให้เห็นตั้งเเต่รัสเซียในยุคหินจนมาถึงช่วงรุ่งเรืองเป็นมหาอำนาจในยุโรป มีการแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีต ผลงานศิลปะ เเละอาวุธที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีโซนไซบีเรีย ที่แสดงภาพของบรรดานักสำรวจที่ออกไปสำรวจไซบีเรียในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 และโซนการจัดเเสดงของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่สร้างประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ ความเป็นมหาอำนาจให้แก่รัสเซียสู่การเข้าไปมีอิทธิพลในยุโรป มีเครื่องเเบบทหารในทุกยุคสมัย เเละเหรียญตรามากมาย

 

พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นตามโองการของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 เปิดทำการเป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 พิพิธภัณฑ์เปิดทำการในวันราชาภิเษกของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 และใช้ชื่อของพระองค์เป็นเวลาหลายปี ชนชั้นสูงและพ่อค้าของรัสเซียมอบสิ่งของจำนวนมากให้แก่พิพิธภัณฑ์นี้ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์รัฐและพิพิธภัณฑ์ที่ปิดตัวไปแล้วในช่วงทศวรรษ 1920 และ 1930 ก็มอบสิ่งของอื่นๆ ให้เช่นกัน

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร และวันจันทร์สุดท้ายของทุกเดือน มีค่าธรรมเนียมเข้าชม สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ Okhotny Ryad

ห้างสรรพสินค้า GUM

 

ที่มา : https://pistonclasico.com/wall/gum-department-store-red-square-moscow-russia-stock

 

ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในมอสโควและมีขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง ทอดยาวไปตามด้านหนึ่งของจัตุรัสแดงเป็นระยะทางถึง 242 เมตร ตัวอาคารสวยงามมาก ออกแบบโดย Alexsander Pomerantsevในปี 1889 -1893 ในรูปแบบที่เรียกว่า Russian Revival โดยมีหลังคาโครงเหล็กกระจกโค้งส่องแสงเข้ามาให้ความสว่างภายในตัวอาคารได้เป็นอย่างดีทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ภายในห้างก็ได้มีการตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม

 

ที่มา : https://gumrussia.com/history/

 

ห้างสรรพสินค้ากุม มีร้านค้ากว่า 1,000 ร้าน โดยจำหน่ายสินค้าแทบทุกประเภททั้งสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคอย่าง เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน เครื่องสำอาง น้ำหอม ของที่ระลึก และสินค้ายี่ห้อดังๆจากทั่วโลก ทั้งฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี และยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ภัตตาคารซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย 

 

ที่มา : https://anotherrussia.com/moscow-saint-petersburg/

 

ห้างสรรพสินค้ากุม เปิดทุกวันเวลาทำการ 10.00 – 22.00 น.  สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Ploshchad Revolutsii

 

พระราชวังเครมลิน

 

ที่มา : https://tariferix.ru/what-you-need-to-visit-first.html

 

พระราชวังเครมลิน ก่อสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1837 ถึง 1849 ในมอสโคว บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมัสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย และในสมัยคอมมิวนิสต์ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลเครมลิน หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตก็ได้เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน และ UNESCO ได้จัดให้ พระราชวังเครมลินเป็นมรดกของโลก

 

เครมลิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบ ทั้งรูปเคารพทางศาสนา และสมบัติของพระเจ้าซาร์ล้วนเก็บอยู่ในห้องต่างๆ ใน พระราชวังเครมลิน มากมายจนประเมินค่าไม่ได้

 

คำว่า “เครมลิน” มีความหมายว่า ป้อมปราการ ซึ่งภายในประกอบด้วยปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย โดยมักเรียกกันแบบรวมๆ ว่าพระราชวังเครมลิน ป้อมปราการมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ เริ่มจากใช้อิฐสีขาวเป็นรอบรั้วกั้นกำแพงแต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นอิฐสีแดง

 

ที่มา : http://guyssquared.com/moscow-private-guide-several-hours-layover-moscow-tour/

 

สถานที่สำคัญภายในพระราชวังเครมลินที่ขอแนะนำให้ไปแวะชม คือ มหาวิหารอัครเทวทูตซึ่งมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามเพื่อใช้เป็นสุสานฝังพระศพของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ ระฆังของพระเจ้าซาร์ พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ จัตุรัสวิหารเป็นส่วนที่สวยงามแห่งหนึ่งของเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหาร 3 หลังที่สำคัญ คือวิหารอัสสัมชัญ วิหารอันนันซิเอชั่น และวิหารอาร์คาเกล และพระบรมมหาราชวัง ส่วนสำคัญที่สุดของเครมลินและเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และพระบรมวงศานุวงศ์ในอดีต ปัจจุบันนี้พระราชวังเครมลินได้ใช้เป็นที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศเท่านั้น

 

พระราชวังเครมลินเปิดทุกวัน เวลาทำการ 09.30-18.00 น. สามารถเริ่มซื้อบัตรเพื่อเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ปิดวันพฤหัสบดี สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Alexandovsky

 

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์

ที่มา : https://www.robertharding.com/index.php?lang=en&page=search&s=tsar%2Bcannon&smode=0&zoom=
1&display=5&sortby=1&bgcolour=white

 

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 ถือได้ว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หล่อขึ้นโดย Andrey Shchokov มีน้ำหนักถึง 40 ตันด้านหน้าปืนใหญ่มีลูกกระสุนตั้งซ้อนกันอยู่ด้านหน้า 4 ลูก โดยแต่ละลูกหนักถึง 1 ตัน แต่ปืนใหญ่กระบอกนี้ไม่เคยถูกใช้งาน

 

ระฆังของพระเจ้าซาร์

 

ที่มา : http://okoguide.com/object.php?id_prod=6238&id_city=1&id_cat=15&id_lang=2#photo

 

ถัดจากปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ไม่ไกลก็จะพบกับระฆังของพระเจ้าซาร์ เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 200 ตัน และมีลวดลายสวยงามบนตัวระฆัง พระเจ้าซาร์อเล็กซิส ทรงรับสั่งให้สร้างแล้วแขวนไว้บนหอคอย แต่ในปี ค.ศ. 1701 เกิดไฟไหม้หอคอย ระฆังตกแตกเป็นเสี่ยงๆ ซาร์รีนา อานนา จึงมีรับสั่งให้นำเศษระฆังที่แตกมาหล่อใหม่ในปี ค.ศ. 1737 ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่เกิดความผิดพลาดขณะหล่อ เทน้ำเย็นลงไปบนระฆังที่ร้อน ทำให้ระฆังแตกออก 1 ชิ้น ชิ้นส่วนที่แตกออกมีน้ำหนักถึง 11 ตันและระฆังใบนี้นำมาตั้งอยู่ที่พื้นพร้อมกับชิ้นส่วนที่แตกออกแทนแขวนอยู่บนหอระฆัง

 

พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์

 

ที่มา : https://www.moscowprivatetours.com/tours/kremlintour/

 

ภายในพระราชวังเครมลินยังมีพิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย และยังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพทย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่ยังคงมีความสมบูรณ์แบบที่มีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ในโลก โดยมีการจัดแสดงอยู่ที่ประเทศรัสเซีย อิหร่าน และอังกฤษ 

 

พระเจ้าอล็กซานเดอร์ที่ 1 โปรดเกล้าฯให้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ รวบรวมไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ประกอบด้วยศาสตราวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้ในสนามรบ เครื่องเงิน เครื่องทอง เพชร พลอย เครื่องทรงของพระเจ้าซาร์และซาร์รีนา

 

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/327381-mysterious-stories-royal-jewelry

 

สมบัติล้ำค่าที่เป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ที่ควรไปชม คือ มงกุฎทองคำของราชวงศ์โมโนมาค ซึ่งพระเจ้าซาร์คอนแสตนติน โมโนมาค ได้พระราชทานแก่เจ้าชายวลาดิมีร์ โมโนมาค ผู้สร้างเมืองวลาดิเมียร์ เมื่อราว 700 ปีมาแล้ว. ทำจากทองคำ ประดับด้วยขนเสือเซเบิล และอัญมณีต่างๆ และใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจนถึงปี ค.ศ. 1682

 

ที่มา : https://forum.artinvestment.ru/blog.php?b=295512&langid=5

 

ชุดฉลองพระองค์ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระนางแคทเธอรีน สวยงามล้ำค่าด้วยการปักดิ้นทองคำรูปนกอินทรี 2 หัวตลอดทั้งชุด ซึ่งทำขึ้นในปี ค.ศ. 1762

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/327381-mysterious-stories-royal-jewelry

 

คฑาพระนางแคทเธอรีนมหาราช ประดับด้วยเพชรโอร์ลอฟ จากอินเดีย เป็นของขวัญจากคนรักของพระนางคือ เคาร์กรีกอรี โอร์ลอฟ

ที่มา : https://allrus.me/great-russia-exclusive-zlatoust-souvenirs/great-imperial-crown-5/

 

มงกุฎพระนางแคทเธอรีน ประกอบด้วยอัญมณีประมาณ 5,000 ชิ้นพร้อมด้วยเพชรซาร์ โดย ซาร์มิร์ซา นำมาถวายพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 

 

บัลลังค์เพชร ทำในเปอร์เซียปี ค.ศ. 1659 โดยบริษัท การค้าอาร์มิเนียน เพื่อถวายแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซิส เป็นพระราชบัลลังค์ที่มีมูลค่ามากที่สุด ตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาและหินเทอร์คอยส์

 

ที่มา :  https://derstandard.at/1389860432225/Am-Anfang-war-das-Ei

 

ไข่ฟาร์แบเช่ ทำขึ้นในปี ค.ศ. 1904 ที่เมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์

 

พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ จะเปิดให้เข้าเป็นเวลาจำนวน 4 รอบ คือ 10.00 น. 12.00 น. 14.30 น. และ 16.30 น. ปิดทุกวันพฤหัสบดี และต้องเสียธรรมเนียมค่าเข้าชมคนละ 700 รูเบิ้ล สำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เข้าชมฟรี

 

วิหารอัสสัมชัญ

 

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/2015/07/17/the_kremlins_dormition_cathedral_russias_sacred_crown_47829.html

 

วิหารหลวงขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และความสำคัญ ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1475-1479 สมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 3 ภายในวิหารผนังด้านตะวันตก จะเป็นภาพเขียนเฟรสโก้ ซึ่งวาดขณะที่ปูนยังไม่แห้งสนิท เป็นผลงานของศิลปินชื่อ Dionysius ต่อมามีการซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยศิลปินชื่อ Ivan และ Boris Paisein โดยเขียนเป็นรูปของพระสาวก และพระสังฆราชในสมัยต่างๆ  ผนังด้านเหนือ ใต้  และตะวันตก เรียงรายไปด้วยหีบศพของพระสังฆราช ประมุขของคริสต์ศาสนานิกายรัสเซี่ยนออร์โธดอกซ์ที่ฝังอยู่ที่นี่จนถึงปี ค.ศ. 1721  ด้านที่สำคัญที่สุด คือ ผนังด้านตะวันออกเป็นภาพเขียนไอคอน รูปพระเยซูเขียนลงบนโลหะหรือแผ่นไม้และมักจะมีกรอบรูปทำด้วยทองคำ รูปที่สำคัญ เช่น The Assumption of the Holy Virgin, The Saviour of the Fierce Eye, The Trinity วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบรัฐพิธีและพระราชพิธีที่สำคัญของราชวงศ์ เป็นเวลากว่า 500 ปี เช่น พิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าซาร์

 

ถนนอารบัท

 

ที่มา : https://moesha.timeweb.ru/blocked/?ref=instyleonline24.com

 

ถนนคนเดินเก่าแก่ของรัสเซีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโคว รอบข้างถนนล้อมรอบไปด้วยตึกอาคารสถาปัตยกรรมแบบยุโรปทำให้ถนนแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงาม สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเพราะนอกจากจะมาเดินช็อปปิ้งแล้วยังสามารถเดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้อีกด้วย

 

ถนนอารบัต(เก่า) ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในอดีตเป็นย่านที่พักอาศัยจนเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1985 ถนนอารบัตได้กลายเป็นถนนคนเดิน และเป็นแหล่งชุมนุมของศิลปิน จิตรกรและนักแสดงที่หลากหลาย ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมที่หลากหลายของสาธารณรัฐโซเวียตในอดีตทำให้คุณได้เปิดกว้างไปกับความเป็นรัสเซียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร เป็นต้น

 

สำหรับการเดินทางมาถนนอารบัตให้นั่งรถไฟใต้ดินมายังสถานี Arbatskaya Metro

มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์

ที่มา : http://ttnotes.com/cathedral-of-christ-the-saviour.html

มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์ หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหารโดมทอง เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมัสควา เมืองมอสโคว วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นการแสดงกตัญญูต่อแผ่นดินที่สามารถรบชนะกองทัพนโปเลียนของฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 45 ปี

 

ในปี ค.ศ. 1990 สมัยสหภาพโซเวียตมหาวิหารแห่งนี้ถูกทำลาย เนื่องจากผู้นำในขณะนั้น สตาลินต้องการล้มล้างศาสนาและมีโครงการที่จะสร้างพระราชวังเป็นของเองแทน โดยจะสร้างตึกสูงและมีอนุสาวรีย์ของตนตั้งสูงตระหง่านอยู่บนยอดตึก แต่เนื่องจากที่ดินบริเวณนั้นอยู่ริมแม่น้ำจึงไม่สามารถรองรับโครงการขนาดใหญ่นี้ได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1994 ได้เริ่มระดมทุนเงินบริจาคจากทั่วประเทศและต่างชาติเพื่อสร้างมหาวิหารขึ้นมาใหม่ โดยเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1995 สมัยประธานาธิบดีบอริส เยลซิน ซึ่งใช้วิหารรูปแบบเดิมแต่เปลี่ยนกรรมวิธีและวัสดุใหม่ ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2000 มหาวิหารแห่งนี้ได้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซีย ดังนั้นวิหารแห่งนี้จึงเป็นที่รักและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน

 

มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์เปิดเวลา 13.00 – 17.00 น. วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม แต่ภายในวิหารห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด สำหรับการเดินทาง ถ้าคุณอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสแดงสามารถเดินมาได้ หรือ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Kropotkinskaya 

 

โรงละครบอลชอย

ที่มา : https://www.getyourguide.com/moscow-l181/moscow-2-hour-legendary-bolshoi-theatre-historical-tour-t154041/

 

สิ่งที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของรัสเซีย คือ บัลเลต์ ซึ่งถือว่าเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงจะมีการแสดงที่โรงละคร ซึ่งรัสเซียได้มีโรงละครที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ โรงละครบอลชอย  สร้างขึ้นในของพระนางแคเธอรีนมหาราชเนื่องจากพระองค์ทรงโปรดปรานศิลปะการแสดงมาก จึงมีรับสั่งให้สร้างโรงละครขึ้นในปี ค.ศ. 1783 โดยสร้างโรงละครหินขึ้นแทนที่โรงละครไม้ มีชื่อว่า โรงละครบอลชอย

 

โรงละครบอลชอยตั้งอยู่ที่จัตุรัสเธียเตอร์ส เป็นโรงละครชั้นนำในยุโรปและได้รับการยกย่องว่า มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ด้านหน้าของโรงละครประดับด้วยเสาทรงโรมันจำนวน 8 ต้น ข้างบนเป็นรูปประติมากรรมเทพเจ้าอะพอลโล ซึ่งเป็นเทพแห่งศิลปะกำลังทรงรถม้าอยู่ ภายในโรงละครตกแต่งด้วยพรมและม่านสีแดง โคมไฟระย้า สลับลายปูนปั้นสีทอง มีทั้งหมด 6 ชั้น หรูหราอลังการและสวยงามสมเป็นโรงละครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สามารถจุคนได้ราวสองพันคน

 

ถ้าใครชื่นชอบการแสดงขอแนะนำให้ไปชมบัลเลต์ ศิลปะการแสดงชั้นสูงของรัสเซีย โดยคณะการแสดงที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่างโรงละครบอลชอย ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่า สวยงามเกินบรรยาย การแสดงยอดนิยมส่วนใหญ่คือ Swan Lake, Sleeping Beauty นำแสดงโดยนักบัลเล่ต์ที่มีชื่อเสียง หรือหากไม่ได้ต้องการชมการแสดงบัลเลต์ก็สามารถแวะไปเที่ยวชมถ่ายรูปด้านหน้าโรงละครได้

 

สำหรับการซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปรับชมการแสดงขอแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าหรือถ้าใครไม่อยากจองล่วงหน้าก็สามารถไปซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วที่โรงละคร การเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Teatralnaya แล้วเดินต่อเล็กน้อยก็จะเจอโรงละครบอลชอย

 

มอสโควมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาที่มีการก่อสร้างออกมาได้อย่างโดดเด่นและวิจิตรสวยงาม โดยจะมีการก่อสร้างมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์รูริคที่เป็นราชวงศ์แรกเริ่มของประเทศรัสเซีย ความหรูหราอลังการ ความมั่งคั่ง และความทรงอำนาจของราชวงศ์โรมานอฟ  แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานและยิ่งใหญ่ของประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ยังมีโบสถ์วิหารเป็นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางศาสนาคริสต์ออโธร์ดอกซ์ของรัสเซียที่เริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จนมอสโควได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของคริสต์ออโธร์ดอกซ์และโรมที่ 3

 

จากที่อ่านกันไปแล้วจะเห็นได้ว่ารัสเซียมีที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกชมทั้งความสวยงามของพระราชวังและโบสถ์วิหาร ความหรูหราของสิ่งของล้ำค่าและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ สถานที่เดินเล่นและช็อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินกับความสวยงามของทิวทัศน์รอบข้างอย่างห้างกุมและถนนอารบัท และชมการแสดงบัลเลต์และโอเปร่าที่โรงละครบอลชอย สุดท้ายนี้ขอบอกก่อนว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวในมอสโควอีกมากที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ทางเราขอกล่าวเพียงสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงเพียงไม่กี่แห่งที่คุณไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมเมื่อไปถึงมอสโคว ไม่งั้นคงเรียกได้ว่าเหมือนมาไม่ถึงรัสเซีย

 

 

 

อ้างอิง

ขาช็อปไม่ควรพลาด ห้างสรรพสินค้า GUM (ห้างกุม).  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
              http://www.pearlvacations.co.th/สาระท่องเที่ยว/ขาช็อปไม่ควรพลาด-ห้างสรรพสินค้า-gum-ห้างกุม

จัตุรัสแดง.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.angelstartravel.com/content-detail.php?data=

           %E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%
           AA%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87.html

จัตุรัสแดงและมหาวิหารเซนต์เบซิล สัญลักษณ์แห่งรัสเซีย.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
             https://themomentum.co/red-square-and-saint-basil-cathedral-moscow/

ต้นกำเนิดบัลเล่ต์.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.angelstartravel.com/content-detail.php?data=
             ต้นกำเนิดบัลเล่ต์.html

เที่ยวพิพิธภัณฑ์รัสเซีย.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.wonderfulpackage.com/article/v/357/

เปิดตำนาน มหาวิหารเซนต์บาซิล ความงดงามที่ต้องแลกกับดวงตาของผู้ออกแบบ.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้น
              จาก https://travel.kapook.com/view185233.html

พา ช้อปปิ้ง รัสเซีย กับ 3 ย่านถนนคนเดิน ที่ฮอตที่สุด.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.mush
                 roomtravel.com/page/shopping-street-russia/

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.expedia.co.th/State-Historical-
                 Museum-Moscow.d6066635.Place-To-Visit

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum).  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
                 http://www.tiewrussia.com/catalog.php?idp=23

พระราชวังเครมลิน.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจากhttp://www.pentorexchange.com/news_view.php?id
              =880

วันเดียวเที่ยว ‘มอสโกว์’.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.culturedcreatures.co/moscow-for-a-day/

วิหารโดมทองที่มอสโก.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.govivigo.com/ideas/390-russia-วิหาร
             โดมทองที่มอสโก

วิหารอัสสัมชัญภายในพระราชวังเครมลิน.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.tiewrussia.com/
              catalog.php?idp=24

Arbat Street Moscow.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://kremlintour.com/arbat-moscow

GUM ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่แห่งกรุงมอสโก.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://leelawadeeholiday.
              wordpress.com/2017/02/23/gum-ห้างสรรพสินค้าเก่าแ/

12 วันในรัสเซีย เที่ยวยังไงให้รอด!! EP1: เจาะลึกมอสโก (Moscow) กินอยู่สบาย เที่ยวตามได้เลย.  (17 มิถุนายน
            2562).  สืบค้นจาก http://ibreak2travel.com/2018/06/23/review-russia-moscow/

 

 

 

By Lanlinta P.