ป้ายกำกับ: มอสโคว

การเดินทางในมอสโคว

Posted By : Aeroglobal Co.,Ltd/ 9505 0

 

การเดินทางในมอสโคว

 

มอสโควเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป โดยมีสัดส่วนประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้มอสโควต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่พร้อมสำหรับการรองรับการเดินทางของผู้คนจำนวนหลายล้านคนให้สะดวกในแต่ละวัน จนมอสโควได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีระบบขนส่งมวลชนคุณภาพที่ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ดังนั้นหากไปท่องเที่ยวที่รัสเซียจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพราะการเดินทางที่รัสเซียมีความสะดวกสบายมาก เนื่องด้วยมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายให้เลือกใช้บริการ ได้แก่ รถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถเมล์ไฟฟ้า รถราง รถไฟลอยฟ้า และแท็กซี่

 

รถไฟใต้ดิน

ที่มา : https://www.metro-report.com/news/single-view/view/next-section-of-moscow-metro-line-11-opens.html

 

รถไฟใต้ดิน ภาษารัสเซีย เรียกว่า Metro (อ่านว่า เมโทร) ได้มีการริเริ่มในปี ค.ศ. 1931 เนื่องจากในขณะนั้นมีปัญหาในการเดินทางด้วยรถราง ผู้ว่าการเมืองมอสโควในขณะนั้น คือ กากาโนวิช ลาซาร มาอิเซเยวิช จึงสนับสนุนการสร้างระบบการเดินทางแบบใหม่เพื่อลดปัญหาและเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่รวดเร็วและราคาที่ถูกกว่ารถราง ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1935 ได้เกิดรถไฟใต้ดินสายแรกขึ้น คือ สาย ซาโกลนิกี่

 

สถานีรถไฟใต้ดินมีการประดับตกแต่งสถาปัตยกรรมอย่างสวยงามแตกต่างจากสถานีรถไฟใต้ดินของประเทศอื่นๆ สาเหตุเนื่องมาจากตามคำกล่าวของ นิโคลัย ชูมากอฟ  หนึ่งในสถาปนิกที่ออกแบบภายในสถานีรถไฟใต้ดิน ได้กล่าวว่า “แนวคิดของการสร้างรถไฟใต้ดินในช่วงปี ค.ศ. 1930 นั้น ไม่ได้ต้องการให้รถไฟใต้ดินเป็นเพียงแค่ระบบการขนส่งสาธารณะ  แต่ยังเป็นอะไรที่มากกว่านั้น  นั่นคือ  ขณะนั้นต้องการทำให้สถานีของรถไฟใต้ดินเปรียบเสมือนพระราชวังใต้ดินสำหรับคนธรรมดาทั่วๆไป   ด้วยเหตุนี้   การตบแต่งภายในสถานีของรถไฟใต้ดินในสมัยนั้นจึงได้นำเอาหินอ่อน มาใช้ประดับเพื่อให้รู้สึกอลังการหรูหรา นอกจากนั้นยังมีการจัดทำอนุสรณ์สถาน และอนุสาวรีย์  ใต้ดินอีกด้วย”

 

ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันเมืองมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กยังคงมีการจราจรติดขัดมาก คนจึงนิยมใช้รถไฟใต้ดินในการเดินทางมากกว่า เพราะรถไฟใต้ดินสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ในตัวเมือง ราคาประหยัด และมีความตรงต่อเวลามาก นอกจากนี้ยังมีความเร็วมาก ไม่ถึง 2 นาทีก็มาถึงสถานีต่อไป เมื่อรถไฟใต้ดินจะจอดแต่ละครั้งเนื่องจากเร็วมากจึงมีแรงเหวี่ยงมากทำให้จอดแต่ละทีนั้น ถ้าคนไม่ระวังอาจจะหัวทิ่มพื้นได้ดังนั้นควรหาที่จับไว้ดีๆ

 

ทุกๆปี แผนที่รถไฟใต้ดินมอสโควจะมีการอัพเดทเพราะจะมีสถานีรถไฟใต้ดินที่จะเปิดใหม่  สายรถไฟใต้ดินเมืองมอสโคว ไม่รวมสายวงแหวนศูนย์กลางมอสโก (Moscow Central Circle) มีจำนวนกว่า 200 สถานี และแต่ละสถานีจะมีความลึกมากประมาณตึก 5 ชั้น

ที่มา : https://apps.apple.com/us/app/yandex-metro/id392589075

 

สำหรับความสะดวกในการเดินทางรถไฟใต้ดิน ขอแนะนำให้มีแอพ Yandex.Metro ติดไว้ในมือถือ เพราะเป็นแอพสำหรับรถไฟใต้ดินในมอสโควโดยเฉพาะ คุณสามารถดูแผนที่รถไฟใต้ดินในมอสโคว ชื่อสถานีซึ่งเป็นทั้งภาษาอังกฤษและภาษารัสเซีย เพื่อที่จะได้เดินทางได้อย่างถูกต้องเพราะบางสถานีมีชื่อเหมือนกัน แต่เป็นคนละสาย และปลายทางสถานที่ก็คนละสถานที่กัน ดังนั้นควรมีไว้เพื่อตรวจเช็คให้มั่นใจ นอกจากนี้แอพยังบอกเวลาที่รถไฟใต้ดินจะมาถึงของแต่ละสถานี ซึ่งมีความแม่นยำและตรงต่อเวลาสูง

 

รถเมล์  แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ

ที่มา : https://eurasia.uitp.org/moscow-bus-purchase-plans

 

แบบที่ 1 รถเมล์แบบใช้น้ำมัน ภาษารัสเซียเรียกว่า Abtobus (อ่านว่า อัฟโตบุส) เป็นรถเมล์แบบบ้านเรา ซึ่งจะมีหลายสี จะจอดตามป้าย ซึ่งป้ายรถเมล์ที่มอสโควจะมีบอกเวลาสายรถเมล์ที่จะมาถึงป้ายซึ่งมีความตรงเวลามาก

 

ปัจจุบันรถเมล์เป็นตัวเลือกการขนส่งแบบหลักของผู้โดยสารในเมืองมอสโคว เนื่องด้วยเส้นทางครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ในเมือง และยังแผ่ขยายออกไปถึงถนนวงแหวนเมืองมอสโก เรียกได้ว่าเข้าถึงทุกที่มากกว่ารถไฟใต้ดินเสียอีก บางครั้งหากนั่งรถไฟใต้ดินแล้วอาจจะยังต้องมานั่งรถเมล์ต่อ

 

ที่มา : https://www.moscovery.com/public-transport/

 

แบบที่ 2 รถเมล์ไฟฟ้า ภาษารัสเซียเรียกว่า Trolley Bus (อ่านว่า ทรอลเลย์บุส) หรือคนไทยมักเรียกว่ารถหนวด (จากสายข้างบนที่เป็นตัวส่งไฟฟ้ามายังรถ) ถนนใหญ่ในเมืองทุกสายจะมีรถโดยสารประจำทางให้บริการอย่างน้อยหนึ่งเส้นทาง หลายๆ เส้นทางก็จะมีสายรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งคู่อยู่ แต่มีเฉพาะบางเส้นทางทำให้เข้าได้ไม่ทั่วถึงเหมือนอัฟโตบุส

 

รถราง

ที่มา : https://clubferoviar.ro/o-noua-linie-de-tramvai-aprobata-in-oradea/

 

รถราง ภาษารัสเซีย เรียกว่า Tramvai (อ่านว่า ตรัมวัย) เป็นรถรางไฟฟ้าที่ส่วนมากมักวิ่งถนนสายหลักๆ ของเมือง เป็นยานพาหนะขนส่งมวลชนที่มีที่นั่งน้อยเมื่อเทียบกับยานพาหนะขนส่งมวลชนแบบอื่นๆ และยังไปแค่เฉพาะบางพื้นที่ แต่มีข้อดีคือ ไม่ต้องเจอปัญหารถติดเพราะไม่ต้องติดไฟแดง รถจะขับไปเรื่อยๆ

The R1 หรือ Russia One

ที่มา : https://www.metro-report.com/news/single-view/view/russia-one-tram-prototype-revealed.html

 

รถรางมีสภาพค่อนข้างเก่าและทรุดโทรมเนื่องจากถูกใช้มาเป็นเวลานาน และยังมีที่นั่งน้อยทำให้ทางรัสเซียได้หาทางแก้ปัญหาโดยผลิตรถรางแบบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ The R1 หรือ Russia One ซึ่งถูกเปิดตัวในปี ค.ศ.2014 โดยปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากขึ้น มีที่นั่งเพิ่มขึ้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เช่น Wi-Fi, GPS, ที่ชาร์จแบตมือถือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรูปทรงภายนอกที่ทันสมัยสวยงาม มีลักษณะคล้ายกับสมาร์ทโฟน นักออกแบบบางคนจึงเรียกรถรางแบบใหม่นี้ว่าเหมือนเป็น iPhone บนราง แต่ถึงอย่างนั้น The R1 ก็ยังมีการใช้งานเพียงแต่ในตัวเมือง ตามชายขอบเมืองยังคงใช้รถรางแบบเดิม

 

รถไฟลอยฟ้า

ที่มา : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Monorail_Moskau_-_Einfahrt_in_Station_Telezentrum.jpg

 

ภาษารัสเซีย เรียกว่า Monorail (โมโนเรล์) เป็นรถไฟรางเดี่ยว ที่มอสโควพึ่งสร้างมาได้ไม่นานเมื่อเทียบกับยานพาหนะขนส่งแบบอื่น และยังสร้างมาแค่บางโซนและเป็นเพียงสายสั้นๆ เข้าถึงได้ไม่ทั่วทุกที่ สถานีมักอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวมากกว่าทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมสำหรับผู้โดยสารทั่วไปในมอสโคว

 

แท็กซี่ (TAXI)

 

ที่มา : https://www.rbth.com/science-and-tech/326462-taxi-apps-spying.

 

แท็กซี่ที่มอสโควจะมีทั้งคันที่เป็นสีเหลืองล้วนและคันสีขาวล้วน สามารถเรียกใช้ได้โดยยืนโบกรถริมถนน เมื่อมีรถมาจอดรับต้องบอกสถานที่และต่อรองราคากันเอง ซึ่งต้องใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก แต่ทางเราขอแนะนำว่าไม่ควรเรียกเองเพราะอาจโดนโกงค่าโดยสารหรืออาจพาออกนอกเส้นทางได้ ถ้าอยู่ที่สนามบินแนะนำให้ติดต่อที่เคาน์เตอร์บริเวณที่รับกระเป๋า จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อให้ซึ่งจะคิดราคาต่อคันมาให้เลยและราคาจะถูกกว่าเรียกเองหรือนอกสนามบิน ถ้าอยู่ที่โรงแรมให้ทางโรงแรมติดต่อจะคิดราคาต่อคันมาให้เหมือนกัน หรือจะเรียกผ่านทางแอพ เช่น Yandex , Uber เพราะจะได้รู้เลขทะเบียนรถ ชื่อคนขับ เบอร์โทรติดต่อ และค่าโดยสารที่ชัดเจน ซึ่งจะมีความปลอดภัยกว่าการเรียกเอง

 

บัตรสำหรับการเดินทางโดยยานพาหนะขนส่งมวลชนในมอสโคว

บัตรสำหรับการเดินทางในมอสโควจะมีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ตอบสนองกับระบบการขนส่งและความสะดวกของผู้โดยสารในการใช้บริการ แบ่งออกได้เป็น บัตร United, บัตร TAT, บัตร 90 Minutes และบัตร Troika

 

บัตรแต่ละบัตรยังได้มีการแบ่งแพ็คเกจการใช้งานที่ต่างกันออกไป คือ แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แบบเที่ยวเดียวสำหรับรถไฟชานเมือง แบบสำหรับการเดินทาง 10, 20, 60, และ 90 เที่ยว และแบบสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาโดยยังมีแบ่งออกเป็นรายเดือน ซึ่งแต่ละแพ็คเกจจะมีราคาแตกต่างกันให้เลือกซื้อ บัตรสามารถซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วสถานีรถไฟใต้ดิน

 

โดยปกติแล้วบัตรจะคิดราคาแบบต่อเที่ยว ไม่ใช่ตามระยะทาง ซึ่งถ้าเลือกซื้อจำนวนเที่ยวเยอะก็ยิ่งคิดราคาต่อเที่ยวน้อยลง นอกจากนี้บัตร1 ใบสามารถใช้ร่วมกันได้ 4 คน คือ สามารถนำบัตรไปแตะที่เครื่องแปะบัตรเพื่อออกจากสถานีเดียวกันได้ไม่เกิน 4 ครั้ง ยกเว้นบัตร Troika ที่สามารถใช้ได้เพียงคนเดียว  บัตรทุกรูปแบบจะไม่มีวันหมดอายุใช้งานและสามารถใช้ได้แค่เฉพาะที่มอสโควเท่านั้น  

บัตร United

ที่มา : https://www.mos.ru/en/news/item/31475073/

 

บัตรแม่เหล็กสีแดง ด้านหน้าบัตรมีภาษารัสเซียเขียนว่า Единый เป็นบัตรโดยสารที่ใช้สำหรับการเดินทางด้วยยานพาหนะขนส่ง 5 รูปแบบ คือ รถไฟใต้ดิน, โมโนเรล์, รถเมล์ไฟฟ้า, รถเมล์, รถราง

 

บัตร TAT

ที่มา : https://www.mos.ru/en/news/item/31475073/

 

บัตรโดยสารที่ใช้สำหรับการเดินทางด้วยยานพาหนะขนส่งภาคพื้นดิน คือ รถเมล์ไฟฟ้า, รถเมล์, รถราง

 

บัตร 90 Minutes หรือ 90 นาที

ที่มา : https://www.mos.ru/en/news/item/31475073/

 

บัตรโดยสารที่ใช้สำหรับการเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน 1 ครั้ง รวมกับยานพาหนะขนส่งภาคพื้นดินโดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ซึ่งการเดินทางทั้งหมดต้องใช้ภายใน 90 นาที

 

บัตร Troika

ที่มา : https://www.scoopnest.com/user/MoscowTimes/772345745659695104

 

บัตร Troika เป็นบัตรอัจฉริยะไร้สัมผัส (Contactless Smart Cards) ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะในมอสโคว   คือ รถเมล์, รถเมล์ไฟฟ้า,  รถไฟลอยฟ้า, รถราง ในราคา 31 รูเบิล และรถไฟใต้ดิน ในราคา 32 รูเบิล สามารถเติมเงินใส่บัตร Troika ได้ที่ห้องขายตั๋วรถไฟใต้ดิน ทางออนไลน์ ผ่านระบบ SMS ที่จุดให้บริการเติมเงิน และตามตู้ขายตั๋ว Aeroexpress

 

รัสเซียเป็นประเทศใหญ่ ระบบขนส่งพื้นฐานจึงต้องมีความพร้อมในการเดินทางไปยังที่ต่างๆในรัสเซีย ทำให้มีการขนส่งที่หลากหลาย โดยเฉพาะในเมืองมอสโควสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมการเดินทางทั้งเมือง ราคาไม่แพง และยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพราะสถานีรถไฟใต้ดินที่มอสโควมีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามทำให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสมอ นอกจากนี้ยังมีบัตรเดินทางสำหรับการใช้ขนส่งมวลชนในมอสโควที่ตอบสนองชีวิตและความต้องการของผู้คนได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับท่านใดที่มีความต้องการและสนใจไปเที่ยวที่รัสเซียสามารถติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินไปรัสเซีย และจองทัวร์เที่ยวรัสเซียได้กับทางเรา โดยสามารถติดต่อมาได้ทาง

เบอร์โทรศัพท์: 02-3082023 – 25

Email: [email protected]

Line ID: @aeroglobal

 

 

 

อ้างอิง

BatTram, anyone? ‘Badass’ new Russian streetcar revealed (PHOTOS).  (25 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
           https://www.rt.com/news/171452-r1-badass-tram-presentatiob/

Moscow Monorail.  (26 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Moscow_Monorail
             #Stations

Russia’s new tram is a Batmobile on the outside, tech hub on the inside.  (25 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
          https://www.engadget.com/2014/07/13/russia-one-tram/

แกะรหัสเที่ยวรัสเซียด้วยตัวเอง ไม่ยาก…ถ้าอยากลอง.  (26 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
               https://www.tieweng.comtieweng-stpetersburg-moscow-russia/

คำเตือนเรื่องการโดยสารรถแท๊กซี่ในรัสเซีย.  (26 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.thaiembassy.org/
             moscow/th/services/8978/102404-คำเตือนเรื่องการโดยสารรถแท๊กซี่ในรัสเซีย.html

ตอน 8 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่สวยที่สุดในมอสโก ประเทศรัสเซีย.  (26 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
            https://pantip.com/topic/34367346

ระบบตั๋วร่วมใน “กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย”.  (25 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.otp.go.th/
              uploads/tiny_uploads/PDF/2560-09/25600929-DB2.pdf

วิธีใช้รถไฟใต้ดิน (METRO) ในกรุงมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก.  (26 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
               https://shipy-ship.com/2016/04/06วิธีใช้รถไฟใต้ดิน-เมโ/

 

 

 

By Lanlinta P.

 

 

สนามบินในประเทศรัสเซียที่มีการเปลี่ยนชื่อ

Posted By : Aeroglobal Co.,Ltd/ 3786 0

สนามบินในประเทศรัสเซียที่มีการเปลี่ยนชื่อ

 

สำหรับท่านที่มีแผนการเดินทางไปเที่ยวที่รัสเซียต้องระวังไว้ให้ดี ตรวจสอบดูว่าสนามบินที่ท่านต้องไปลงที่รัสเซียมีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่เพื่อป้องกันความสับสนเมื่อจองตั๋วเครื่องบินและเมื่อไปถึงที่สนามบิน

สนามบินหลายแห่งในประเทศรัสเซียได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามบินเป็นชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงที่พักอาศัยอยู่ ณ เมืองนั้นๆ ที่เป็นที่ตั้งของสนามบิน ซึ่งการเปลี่ยนชื่อนี้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ที่มา : https://www.themoscowtimes.com/2019/05/31/pushkin-lomonosov-tupolev-russian-airports-get-a-name-change-a65832

 

 

มอสโคว (Moscow) สนามบินที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ได้แก่

Domodedovo International Airport (DME) → Mikhail Lomonosov นักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 18 (สนามบินที่สายการบินไทยลงเครื่อง)

Sheremetyevo International Airport (SVO) → Aleksandr Pushkin กวีคนสำคัญในศตวรรษที่ 19

Vnukovo International Airport (VKO) → Andrei Tupolev วิศวกรออกแบบเครื่องบินในศตวรรษที่ 20

 

โซชิ (Sochi) สนามบินที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ได้แก่

Sochi (AER) → Vitaly Sevastyanov นักบินอวกาศชาวโซเวียตและวิศวกรที่บินในภารกิจ Soyuz 9 และ Soyuz 18

 

เยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) สนามบินที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ได้แก่

Koltsovo (SVX) → Akinfiy Demidov นักอุตสาหกรรมคนสำคัญในศตวรรษที่ 18

 

โนโวซีบีรสค์ (Novosibirsk) สนามบินที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ได้แก่

Tolmachevo (OVB) → Alexander Pokryshkin นายพลกองทัพโซเวียตและวีรบุรุษของสหภาพโซเวียต

 

คราสโนดาร์ (Krasnodar) สนามบินที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ได้แก่

Pashkovsky (KRR) → Catherine the Great แคทเธอรีนมหาราชินี

หมายเหตุ สนามบินที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Pulkovo Airport และเมืองโวลโกกราด International Airport Volgograd ยังคงใช้ชื่อเดิม

 

ที่มา : https://www.themoscowtimes.com/2019/05/31/pushkin-lomonosov-tupolev-russian-airports-get-a-name-change-a65832

 

สำหรับท่านใดที่มีความต้องการและสนใจไปเที่ยวที่รัสเซียสามารถติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินไปรัสเซีย และจองทัวร์เที่ยวรัสเซียได้กับทางเรา โดยสามารถติดต่อมาได้ทาง

เบอร์โทรศัพท์: 02-3082023 – 25

 Email: [email protected]

Line ID: @aeroglobal

 

อ้างอิง

Pushkin, Lomonosov, Tupolev: Russian Airports Get a Name Change.  (28 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
              https://www.themoscowtimes.com/2019/05/31/pushkin-lomonosov-tupolev-russian-airports-get-
              a-name-change-a65832

 

 

By Lanlinta P.

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและสำคัญในกรุงมอสโคว

Posted By : Aeroglobal Co.,Ltd/ 4538 0

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและสำคัญในกรุงมอสโคว

 

คงไม่มีใครคาดคิดว่ารัสเซียประเทศที่เคยปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น จะมีด้านที่สวยงาม อย่างพระราชวัง โบสถ์วิหาร สภาพภูมิประเทศ และธรรมชาติป่าเขาที่มีความงามเหมือนในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ประเทศรัสเซียมีเมืองมอสโควเป็นเมืองหลวง ซึ่งมีอายุกว่า 870 ปีมาแล้ว การผ่านช่วงเวลามาเป็นเวลานานนี้ทำให้เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มากมายและมีกลิ่นอายศิลปะแบบดั้งเดิม

 

มอสโควมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง ดังนั้นทางเราจึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมอสโควที่เมื่อไปรัสเซียไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม นั่นก็คือ จัตุรัสแดง ซึ่งล้อมรอบไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างมหาวิหารเซนต์บาซิล สุสานเลนิน ห้างสรรพสินค้ากุม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และพระราชวังเครมลิน โดยภายในพระราชวังเครมลินก็ได้มีสถานที่ให้เลือกชม เช่น พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ วิหารอัสสัมชัญ ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ ระฆังของพระเจ้าซาร์และอื่นๆอีกมากมาย ถนนอารบัท มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์ และโรงละครบอลชอย

 

จัตุรัสแดง

 

ที่มา : http://www.prachatalk.com/webboard/สังคม-การเมือง/merry-christmas-พาไปเที่ยวชมกรุง-moscow-and-stpetersburg-russia

 

เริ่มกันด้วยสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย นั่นก็คือ จัตุรัสแดง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากแห่งหนึ่งเพราะเป็นแลนด์มาร์กของประเทศรัสเซีย จัตุรัสแดงตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโคว เมื่อมาถึง จะได้พบกับ มหาวิหารเซนต์บาซิล สุสานเลนิน ห้างสรรพสินค้ากุม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และพระราชวังเครมลินที่อยู่รายล้อมจัตุรัสแดง

 

จัตุรัสแดงสร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก สร้างในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 3 เมื่อประมาณ 600 ปีที่แล้ว อดีตเป็นลานกว้างใช้เป็นตลาด ชื่อว่า Torg ให้ผู้คนจับจ่ายซื้อของ ต่อมาในยุคสหภาพโซเวียตเป็นสถานที่สวนสนามของกองทัพเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร ส่วนปัจจุบันกลายเป็นสถานที่สำหรับเดินเล่น ถ่ายรูป พบปะสังสรรค์ และจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ เช่น งานเฉลิมฉลองทางศาสนา การสวนสนามเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย (9 พฤษภาคมของทุกปี)

 

ด้านหน้าทางเข้าจัตุรัสจะมีแผ่นป้ายวงกลมบนพื้นเป็นที่ตั้งระบุกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย ซึ่งเป็นจุดมาตรฐานสำหรับการวัดค่าระยะทางต่างๆ นักท่องเที่ยวมักจะเข้าไปยืนกลางวงกลม และโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลัง เพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโควอีกครั้ง

 

ที่มา : https://www.euronews.com/2018/05/09/russia-showcases-hypersonic-missile-and-robo-tank-during-victory-day-parade

 

มหาวิหารเซนต์บาซิล

 

ที่มา : https://www.rivercruising.co.uk/river-cruise-deals/riviera-travel-russian-odyssey.phtml

 

มหาวิหารเซนต์บาซิล ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง เป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัสเซีย สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555 ในสมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย เพื่อฉลองชัยชนะในการรบกับมองโกลที่เมืองคาซาน เมื่อปี ค.ศ. 1552 ชัยชนะครั้งนั้นทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติเป็นปึกแผ่นได้ในที่สุด และได้เริ่มสร้างวิหารแห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1555

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลออกแบบโดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ซึ่งพระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก และด้วยฉายาของพระเจ้าอีวานที่ 4 คือ อีวานมหาโหด ทำให้มีเรื่องเล่าว่า จากความงดงามของมหาวิหารเซนต์บาซิล พระเจ้าอีวานที่ 4 ได้มีคำสั่งให้ควักดวงตาทั้งสองของสถาปนิกเพื่อไม่ให้สามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก แต่อย่างไรเสียเรื่องเล่าก็เป็นเพียงเรื่องเล่า เพราะไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าภายหลังจากออกแบบวิหารแห่งนี้ สาเหตุใดเขาถึงตาบอด

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลเป็นโดมรูปหัวหอม มีความแตกต่างจากโบสถ์อื่น คือ เป็นโดม 8 โดมล้อมรอบโดมที่ 9 ที่อยู่ตรงกลาง ทำให้อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณ อันได้รับอิทธิพลมาจากไบแซนไทล์ที่เป็นโดมทรงหัวหอมกับสถาปัตยกรรมรัสเซียนกอธิก หอคอยสูงรูปกระโจมที่เป็นอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก ทำให้ออกมาเป็นหอคอยสูงรูปแท่งเทียนกำลังลุกไหม้บนปลายลำเทียน แสดงให้เห็นถึงการส่งความโชติช่วงชัชวาลย์เป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าบนสวรรค์

 

ที่มา : https://www.dookinternational.com/blog/saint-basils-cathedral-moscow/

 

อีกความแตกต่างจากวิหารอื่นของมหาวิหารเซนต์บาซิล คือ การตกแต่งภายในวิหารอื่นมักเต็มไปด้วยภาพวาดนักบุญ หรือเหตุการณ์สำคัญทางศาสนา แต่มหาวิหารเซนต์บาซิลมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สีสันสดใสเป็นส่วนใหญ่ มีเว้นไว้ตรงภาพประดับบนฉากศักดิ์สิทธิ์และเพดานยอดโดมที่เป็นรูปเคารพของพระเยซูและพระแม่มารี ทำให้มหาวิหารเซนต์บาซิลแตกต่างจากวิหารแห่งอื่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งภายใน

 

ด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ คอสมา มินิน และ เจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ (Kuzma Minin and Dmitry Pozharsky) หล่อด้วยทองสำริด ทั้ง 2 คนเป็นผู้นำกองกำลังอาสาสมัครต่อสู้ผู้รุกรานชาวโปล (Ploes) ออกจากเครมลินในปี ค.ศ. 1818 หลังจากได้รับชัยชนะจากสงครามนโปเลียน เดิมทีตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัสแดง ต่อมาในคุคสหภาพโซเวียตย้ายมาอยู่ด้านหน้ามหาวิหาร

 

มหาวิหารเซนต์บาซิลถ้าเข้าไปชมข้างในต้องเสียค่าธรรมเนียม และเปิดทำการทุกวันเวลา 11:00 – 17:00 น. ปิดวันอังคาร

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum)

 

ที่มา : https://www.freepik.com/premium-photo/state-historical-museum-moscow-russia_4154008.htm

 

ตั้งอยู่บนจตุรัสแดง อาคารเป็นสีแดงเข้มรูปแบบสถาปัตยกรรมเเบบโกธิค เเละมีหอสูง 2 แห่งที่โดดเด่นงดงาม ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์วีรบุรุษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพล Georcy Zhukov สร้างในปี ค.ศ.1995 เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้มีขนาดใหญ่เก็บรวบรวมของสะสมล้ำค่าเก่าแก่ทางด้านโบราณคดีเอาไว้มากมาย ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการเเบ่งโซนการจัดเเสดงออกเป็นหลายโซน โดยแสดงให้เห็นตั้งเเต่รัสเซียในยุคหินจนมาถึงช่วงรุ่งเรืองเป็นมหาอำนาจในยุโรป มีการแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีต ผลงานศิลปะ เเละอาวุธที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีโซนไซบีเรีย ที่แสดงภาพของบรรดานักสำรวจที่ออกไปสำรวจไซบีเรียในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 และโซนการจัดเเสดงของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่สร้างประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ ความเป็นมหาอำนาจให้แก่รัสเซียสู่การเข้าไปมีอิทธิพลในยุโรป มีเครื่องเเบบทหารในทุกยุคสมัย เเละเหรียญตรามากมาย

 

พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นตามโองการของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 เปิดทำการเป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 พิพิธภัณฑ์เปิดทำการในวันราชาภิเษกของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 และใช้ชื่อของพระองค์เป็นเวลาหลายปี ชนชั้นสูงและพ่อค้าของรัสเซียมอบสิ่งของจำนวนมากให้แก่พิพิธภัณฑ์นี้ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์รัฐและพิพิธภัณฑ์ที่ปิดตัวไปแล้วในช่วงทศวรรษ 1920 และ 1930 ก็มอบสิ่งของอื่นๆ ให้เช่นกัน

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร และวันจันทร์สุดท้ายของทุกเดือน มีค่าธรรมเนียมเข้าชม สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ Okhotny Ryad

ห้างสรรพสินค้า GUM

 

ที่มา : https://pistonclasico.com/wall/gum-department-store-red-square-moscow-russia-stock

 

ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในมอสโควและมีขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง ทอดยาวไปตามด้านหนึ่งของจัตุรัสแดงเป็นระยะทางถึง 242 เมตร ตัวอาคารสวยงามมาก ออกแบบโดย Alexsander Pomerantsevในปี 1889 -1893 ในรูปแบบที่เรียกว่า Russian Revival โดยมีหลังคาโครงเหล็กกระจกโค้งส่องแสงเข้ามาให้ความสว่างภายในตัวอาคารได้เป็นอย่างดีทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ภายในห้างก็ได้มีการตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม

 

ที่มา : https://gumrussia.com/history/

 

ห้างสรรพสินค้ากุม มีร้านค้ากว่า 1,000 ร้าน โดยจำหน่ายสินค้าแทบทุกประเภททั้งสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคอย่าง เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน เครื่องสำอาง น้ำหอม ของที่ระลึก และสินค้ายี่ห้อดังๆจากทั่วโลก ทั้งฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี และยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ภัตตาคารซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย 

 

ที่มา : https://anotherrussia.com/moscow-saint-petersburg/

 

ห้างสรรพสินค้ากุม เปิดทุกวันเวลาทำการ 10.00 – 22.00 น.  สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Ploshchad Revolutsii

 

พระราชวังเครมลิน

 

ที่มา : https://tariferix.ru/what-you-need-to-visit-first.html

 

พระราชวังเครมลิน ก่อสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1837 ถึง 1849 ในมอสโคว บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมัสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย และในสมัยคอมมิวนิสต์ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลเครมลิน หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตก็ได้เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน และ UNESCO ได้จัดให้ พระราชวังเครมลินเป็นมรดกของโลก

 

เครมลิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบ ทั้งรูปเคารพทางศาสนา และสมบัติของพระเจ้าซาร์ล้วนเก็บอยู่ในห้องต่างๆ ใน พระราชวังเครมลิน มากมายจนประเมินค่าไม่ได้

 

คำว่า “เครมลิน” มีความหมายว่า ป้อมปราการ ซึ่งภายในประกอบด้วยปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย โดยมักเรียกกันแบบรวมๆ ว่าพระราชวังเครมลิน ป้อมปราการมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ เริ่มจากใช้อิฐสีขาวเป็นรอบรั้วกั้นกำแพงแต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นอิฐสีแดง

 

ที่มา : http://guyssquared.com/moscow-private-guide-several-hours-layover-moscow-tour/

 

สถานที่สำคัญภายในพระราชวังเครมลินที่ขอแนะนำให้ไปแวะชม คือ มหาวิหารอัครเทวทูตซึ่งมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามเพื่อใช้เป็นสุสานฝังพระศพของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ ระฆังของพระเจ้าซาร์ พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ จัตุรัสวิหารเป็นส่วนที่สวยงามแห่งหนึ่งของเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหาร 3 หลังที่สำคัญ คือวิหารอัสสัมชัญ วิหารอันนันซิเอชั่น และวิหารอาร์คาเกล และพระบรมมหาราชวัง ส่วนสำคัญที่สุดของเครมลินและเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และพระบรมวงศานุวงศ์ในอดีต ปัจจุบันนี้พระราชวังเครมลินได้ใช้เป็นที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศเท่านั้น

 

พระราชวังเครมลินเปิดทุกวัน เวลาทำการ 09.30-18.00 น. สามารถเริ่มซื้อบัตรเพื่อเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ปิดวันพฤหัสบดี สำหรับการเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Alexandovsky

 

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์

ที่มา : https://www.robertharding.com/index.php?lang=en&page=search&s=tsar%2Bcannon&smode=0&zoom=
1&display=5&sortby=1&bgcolour=white

 

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 ถือได้ว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หล่อขึ้นโดย Andrey Shchokov มีน้ำหนักถึง 40 ตันด้านหน้าปืนใหญ่มีลูกกระสุนตั้งซ้อนกันอยู่ด้านหน้า 4 ลูก โดยแต่ละลูกหนักถึง 1 ตัน แต่ปืนใหญ่กระบอกนี้ไม่เคยถูกใช้งาน

 

ระฆังของพระเจ้าซาร์

 

ที่มา : http://okoguide.com/object.php?id_prod=6238&id_city=1&id_cat=15&id_lang=2#photo

 

ถัดจากปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ไม่ไกลก็จะพบกับระฆังของพระเจ้าซาร์ เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 200 ตัน และมีลวดลายสวยงามบนตัวระฆัง พระเจ้าซาร์อเล็กซิส ทรงรับสั่งให้สร้างแล้วแขวนไว้บนหอคอย แต่ในปี ค.ศ. 1701 เกิดไฟไหม้หอคอย ระฆังตกแตกเป็นเสี่ยงๆ ซาร์รีนา อานนา จึงมีรับสั่งให้นำเศษระฆังที่แตกมาหล่อใหม่ในปี ค.ศ. 1737 ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่เกิดความผิดพลาดขณะหล่อ เทน้ำเย็นลงไปบนระฆังที่ร้อน ทำให้ระฆังแตกออก 1 ชิ้น ชิ้นส่วนที่แตกออกมีน้ำหนักถึง 11 ตันและระฆังใบนี้นำมาตั้งอยู่ที่พื้นพร้อมกับชิ้นส่วนที่แตกออกแทนแขวนอยู่บนหอระฆัง

 

พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์

 

ที่มา : https://www.moscowprivatetours.com/tours/kremlintour/

 

ภายในพระราชวังเครมลินยังมีพิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย และยังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพทย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่ยังคงมีความสมบูรณ์แบบที่มีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ในโลก โดยมีการจัดแสดงอยู่ที่ประเทศรัสเซีย อิหร่าน และอังกฤษ 

 

พระเจ้าอล็กซานเดอร์ที่ 1 โปรดเกล้าฯให้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ รวบรวมไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ประกอบด้วยศาสตราวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้ในสนามรบ เครื่องเงิน เครื่องทอง เพชร พลอย เครื่องทรงของพระเจ้าซาร์และซาร์รีนา

 

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/327381-mysterious-stories-royal-jewelry

 

สมบัติล้ำค่าที่เป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ที่ควรไปชม คือ มงกุฎทองคำของราชวงศ์โมโนมาค ซึ่งพระเจ้าซาร์คอนแสตนติน โมโนมาค ได้พระราชทานแก่เจ้าชายวลาดิมีร์ โมโนมาค ผู้สร้างเมืองวลาดิเมียร์ เมื่อราว 700 ปีมาแล้ว. ทำจากทองคำ ประดับด้วยขนเสือเซเบิล และอัญมณีต่างๆ และใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจนถึงปี ค.ศ. 1682

 

ที่มา : https://forum.artinvestment.ru/blog.php?b=295512&langid=5

 

ชุดฉลองพระองค์ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระนางแคทเธอรีน สวยงามล้ำค่าด้วยการปักดิ้นทองคำรูปนกอินทรี 2 หัวตลอดทั้งชุด ซึ่งทำขึ้นในปี ค.ศ. 1762

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/327381-mysterious-stories-royal-jewelry

 

คฑาพระนางแคทเธอรีนมหาราช ประดับด้วยเพชรโอร์ลอฟ จากอินเดีย เป็นของขวัญจากคนรักของพระนางคือ เคาร์กรีกอรี โอร์ลอฟ

ที่มา : https://allrus.me/great-russia-exclusive-zlatoust-souvenirs/great-imperial-crown-5/

 

มงกุฎพระนางแคทเธอรีน ประกอบด้วยอัญมณีประมาณ 5,000 ชิ้นพร้อมด้วยเพชรซาร์ โดย ซาร์มิร์ซา นำมาถวายพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 

 

บัลลังค์เพชร ทำในเปอร์เซียปี ค.ศ. 1659 โดยบริษัท การค้าอาร์มิเนียน เพื่อถวายแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซิส เป็นพระราชบัลลังค์ที่มีมูลค่ามากที่สุด ตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาและหินเทอร์คอยส์

 

ที่มา :  https://derstandard.at/1389860432225/Am-Anfang-war-das-Ei

 

ไข่ฟาร์แบเช่ ทำขึ้นในปี ค.ศ. 1904 ที่เมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์

 

พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ จะเปิดให้เข้าเป็นเวลาจำนวน 4 รอบ คือ 10.00 น. 12.00 น. 14.30 น. และ 16.30 น. ปิดทุกวันพฤหัสบดี และต้องเสียธรรมเนียมค่าเข้าชมคนละ 700 รูเบิ้ล สำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เข้าชมฟรี

 

วิหารอัสสัมชัญ

 

ที่มา : https://www.rbth.com/arts/2015/07/17/the_kremlins_dormition_cathedral_russias_sacred_crown_47829.html

 

วิหารหลวงขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และความสำคัญ ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1475-1479 สมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 3 ภายในวิหารผนังด้านตะวันตก จะเป็นภาพเขียนเฟรสโก้ ซึ่งวาดขณะที่ปูนยังไม่แห้งสนิท เป็นผลงานของศิลปินชื่อ Dionysius ต่อมามีการซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยศิลปินชื่อ Ivan และ Boris Paisein โดยเขียนเป็นรูปของพระสาวก และพระสังฆราชในสมัยต่างๆ  ผนังด้านเหนือ ใต้  และตะวันตก เรียงรายไปด้วยหีบศพของพระสังฆราช ประมุขของคริสต์ศาสนานิกายรัสเซี่ยนออร์โธดอกซ์ที่ฝังอยู่ที่นี่จนถึงปี ค.ศ. 1721  ด้านที่สำคัญที่สุด คือ ผนังด้านตะวันออกเป็นภาพเขียนไอคอน รูปพระเยซูเขียนลงบนโลหะหรือแผ่นไม้และมักจะมีกรอบรูปทำด้วยทองคำ รูปที่สำคัญ เช่น The Assumption of the Holy Virgin, The Saviour of the Fierce Eye, The Trinity วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบรัฐพิธีและพระราชพิธีที่สำคัญของราชวงศ์ เป็นเวลากว่า 500 ปี เช่น พิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าซาร์

 

ถนนอารบัท

 

ที่มา : https://moesha.timeweb.ru/blocked/?ref=instyleonline24.com

 

ถนนคนเดินเก่าแก่ของรัสเซีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโคว รอบข้างถนนล้อมรอบไปด้วยตึกอาคารสถาปัตยกรรมแบบยุโรปทำให้ถนนแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงาม สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเพราะนอกจากจะมาเดินช็อปปิ้งแล้วยังสามารถเดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้อีกด้วย

 

ถนนอารบัต(เก่า) ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในอดีตเป็นย่านที่พักอาศัยจนเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1985 ถนนอารบัตได้กลายเป็นถนนคนเดิน และเป็นแหล่งชุมนุมของศิลปิน จิตรกรและนักแสดงที่หลากหลาย ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมที่หลากหลายของสาธารณรัฐโซเวียตในอดีตทำให้คุณได้เปิดกว้างไปกับความเป็นรัสเซียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร เป็นต้น

 

สำหรับการเดินทางมาถนนอารบัตให้นั่งรถไฟใต้ดินมายังสถานี Arbatskaya Metro

มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์

ที่มา : http://ttnotes.com/cathedral-of-christ-the-saviour.html

มหาวิหารเซนต์ เดอะ ซาเวียร์ หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหารโดมทอง เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมัสควา เมืองมอสโคว วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นการแสดงกตัญญูต่อแผ่นดินที่สามารถรบชนะกองทัพนโปเลียนของฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 45 ปี

 

ในปี ค.ศ. 1990 สมัยสหภาพโซเวียตมหาวิหารแห่งนี้ถูกทำลาย เนื่องจากผู้นำในขณะนั้น สตาลินต้องการล้มล้างศาสนาและมีโครงการที่จะสร้างพระราชวังเป็นของเองแทน โดยจะสร้างตึกสูงและมีอนุสาวรีย์ของตนตั้งสูงตระหง่านอยู่บนยอดตึก แต่เนื่องจากที่ดินบริเวณนั้นอยู่ริมแม่น้ำจึงไม่สามารถรองรับโครงการขนาดใหญ่นี้ได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1994 ได้เริ่มระดมทุนเงินบริจาคจากทั่วประเทศและต่างชาติเพื่อสร้างมหาวิหารขึ้นมาใหม่ โดยเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1995 สมัยประธานาธิบดีบอริส เยลซิน ซึ่งใช้วิหารรูปแบบเดิมแต่เปลี่ยนกรรมวิธีและวัสดุใหม่ ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2000 มหาวิหารแห่งนี้ได้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซีย ดังนั้นวิหารแห่งนี้จึงเป็นที่รักและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน

 

มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์เปิดเวลา 13.00 – 17.00 น. วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม แต่ภายในวิหารห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด สำหรับการเดินทาง ถ้าคุณอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสแดงสามารถเดินมาได้ หรือ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Kropotkinskaya 

 

โรงละครบอลชอย

ที่มา : https://www.getyourguide.com/moscow-l181/moscow-2-hour-legendary-bolshoi-theatre-historical-tour-t154041/

 

สิ่งที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของรัสเซีย คือ บัลเลต์ ซึ่งถือว่าเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงจะมีการแสดงที่โรงละคร ซึ่งรัสเซียได้มีโรงละครที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ โรงละครบอลชอย  สร้างขึ้นในของพระนางแคเธอรีนมหาราชเนื่องจากพระองค์ทรงโปรดปรานศิลปะการแสดงมาก จึงมีรับสั่งให้สร้างโรงละครขึ้นในปี ค.ศ. 1783 โดยสร้างโรงละครหินขึ้นแทนที่โรงละครไม้ มีชื่อว่า โรงละครบอลชอย

 

โรงละครบอลชอยตั้งอยู่ที่จัตุรัสเธียเตอร์ส เป็นโรงละครชั้นนำในยุโรปและได้รับการยกย่องว่า มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ด้านหน้าของโรงละครประดับด้วยเสาทรงโรมันจำนวน 8 ต้น ข้างบนเป็นรูปประติมากรรมเทพเจ้าอะพอลโล ซึ่งเป็นเทพแห่งศิลปะกำลังทรงรถม้าอยู่ ภายในโรงละครตกแต่งด้วยพรมและม่านสีแดง โคมไฟระย้า สลับลายปูนปั้นสีทอง มีทั้งหมด 6 ชั้น หรูหราอลังการและสวยงามสมเป็นโรงละครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สามารถจุคนได้ราวสองพันคน

 

ถ้าใครชื่นชอบการแสดงขอแนะนำให้ไปชมบัลเลต์ ศิลปะการแสดงชั้นสูงของรัสเซีย โดยคณะการแสดงที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่างโรงละครบอลชอย ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่า สวยงามเกินบรรยาย การแสดงยอดนิยมส่วนใหญ่คือ Swan Lake, Sleeping Beauty นำแสดงโดยนักบัลเล่ต์ที่มีชื่อเสียง หรือหากไม่ได้ต้องการชมการแสดงบัลเลต์ก็สามารถแวะไปเที่ยวชมถ่ายรูปด้านหน้าโรงละครได้

 

สำหรับการซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปรับชมการแสดงขอแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าหรือถ้าใครไม่อยากจองล่วงหน้าก็สามารถไปซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วที่โรงละคร การเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Teatralnaya แล้วเดินต่อเล็กน้อยก็จะเจอโรงละครบอลชอย

 

มอสโควมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาที่มีการก่อสร้างออกมาได้อย่างโดดเด่นและวิจิตรสวยงาม โดยจะมีการก่อสร้างมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์รูริคที่เป็นราชวงศ์แรกเริ่มของประเทศรัสเซีย ความหรูหราอลังการ ความมั่งคั่ง และความทรงอำนาจของราชวงศ์โรมานอฟ  แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานและยิ่งใหญ่ของประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ยังมีโบสถ์วิหารเป็นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางศาสนาคริสต์ออโธร์ดอกซ์ของรัสเซียที่เริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จนมอสโควได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของคริสต์ออโธร์ดอกซ์และโรมที่ 3

 

จากที่อ่านกันไปแล้วจะเห็นได้ว่ารัสเซียมีที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกชมทั้งความสวยงามของพระราชวังและโบสถ์วิหาร ความหรูหราของสิ่งของล้ำค่าและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ สถานที่เดินเล่นและช็อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินกับความสวยงามของทิวทัศน์รอบข้างอย่างห้างกุมและถนนอารบัท และชมการแสดงบัลเลต์และโอเปร่าที่โรงละครบอลชอย สุดท้ายนี้ขอบอกก่อนว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวในมอสโควอีกมากที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ทางเราขอกล่าวเพียงสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงเพียงไม่กี่แห่งที่คุณไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมเมื่อไปถึงมอสโคว ไม่งั้นคงเรียกได้ว่าเหมือนมาไม่ถึงรัสเซีย

 

 

 

อ้างอิง

ขาช็อปไม่ควรพลาด ห้างสรรพสินค้า GUM (ห้างกุม).  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
              http://www.pearlvacations.co.th/สาระท่องเที่ยว/ขาช็อปไม่ควรพลาด-ห้างสรรพสินค้า-gum-ห้างกุม

จัตุรัสแดง.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.angelstartravel.com/content-detail.php?data=

           %E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%
           AA%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87.html

จัตุรัสแดงและมหาวิหารเซนต์เบซิล สัญลักษณ์แห่งรัสเซีย.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
             https://themomentum.co/red-square-and-saint-basil-cathedral-moscow/

ต้นกำเนิดบัลเล่ต์.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.angelstartravel.com/content-detail.php?data=
             ต้นกำเนิดบัลเล่ต์.html

เที่ยวพิพิธภัณฑ์รัสเซีย.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.wonderfulpackage.com/article/v/357/

เปิดตำนาน มหาวิหารเซนต์บาซิล ความงดงามที่ต้องแลกกับดวงตาของผู้ออกแบบ.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้น
              จาก https://travel.kapook.com/view185233.html

พา ช้อปปิ้ง รัสเซีย กับ 3 ย่านถนนคนเดิน ที่ฮอตที่สุด.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.mush
                 roomtravel.com/page/shopping-street-russia/

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.expedia.co.th/State-Historical-
                 Museum-Moscow.d6066635.Place-To-Visit

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum).  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก
                 http://www.tiewrussia.com/catalog.php?idp=23

พระราชวังเครมลิน.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจากhttp://www.pentorexchange.com/news_view.php?id
              =880

วันเดียวเที่ยว ‘มอสโกว์’.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.culturedcreatures.co/moscow-for-a-day/

วิหารโดมทองที่มอสโก.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://www.govivigo.com/ideas/390-russia-วิหาร
             โดมทองที่มอสโก

วิหารอัสสัมชัญภายในพระราชวังเครมลิน.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก http://www.tiewrussia.com/
              catalog.php?idp=24

Arbat Street Moscow.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://kremlintour.com/arbat-moscow

GUM ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่แห่งกรุงมอสโก.  (17 มิถุนายน 2562).  สืบค้นจาก https://leelawadeeholiday.
              wordpress.com/2017/02/23/gum-ห้างสรรพสินค้าเก่าแ/

12 วันในรัสเซีย เที่ยวยังไงให้รอด!! EP1: เจาะลึกมอสโก (Moscow) กินอยู่สบาย เที่ยวตามได้เลย.  (17 มิถุนายน
            2562).  สืบค้นจาก http://ibreak2travel.com/2018/06/23/review-russia-moscow/

 

 

 

By Lanlinta P.

 

เส้นทางบิน ไทย-รัสเซีย แอโรฟลอต

Posted By : Aeroglobal Co.,Ltd/ 2869 0

 

เส้นทางบิน ไทย-รัสเซีย แอโรฟลอต

 

บินตรงทุกวันซึ่งบางฤดูกาลมีบิน 2 เที่ยวบินต่อวัน
เที่ยวบินที่ออกจากประเทศไทยไป มอสโคว ท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว Sheremetyevo International Airport

มี 2 ที่ คือ

1. ขาออกจาก กรุงเทพฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

Flight No DEP FROM ARV TO DEP TIME ARV TIME FREQUENCY
SU271 BKK SVO 10:00 17:05 DAILY
SU273 BKK SVO 12:00 19:40 DAILY
SU270 SVO BKK 18:35 08:30+1 DAILY
SU272 SVO BKK 20:10 10:30+1 DAILY
2X ไฟล์ทต่อวัน กรุงเทพ ไป มอสโคว
หมายเหตุ: SU273 และ SU272 จะเปิดให้บริการถึง 14 พ.ค.62 และจะกลับมาบินอีกครั้งวันที่ 28 ต.ค.62 กรุณาตรวจสอบตารางบินที่แน่ชัดอีกครั้ง


2. ขาออกจาก ภูเก็ต ท่าอากาศยานภูเก็ต

 

Flight No DEP FROM ARV TO DEP TIME ARV TIME FREQUENCY
SU275 HKT SVO 10:35 17:50 DAILY
SU274 SVO HKT 17:40 08:30 DAILY
ตั้งแต่ 30 พ.ค.62 จะเปลี่ยนแปลงตารางเวลาบิน เป็นความถี่ในการบิน 1,2,4,6,7 ตั้งแต่ 5 ต.ค.62 เป็นต้นไป จะบินทุกวัน  กรุณาตรวจสอบตารางบินที่แน่ชัดอีกครั้ง